โรคซึมเศร้า...อาจเกี่ยวข้องกับปอดและลำไส้ มากกว่าที่คิด!
อ.มาศเขียนยาวหน่อย ชอบหรือเปล่าบอกด้วย
คุณเคยรู้สึกไหมว่าความเศร้าที่คุณแบกรับไว้ มันไม่ได้อยู่แค่ในใจ แต่มันส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย? ทั้งแพทย์แผนจีนโบราณและงานวิจัยแผนปัจจุบัน ต่างชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า "ปอด ลำไส้ และสมอง" มีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง และอาจเป็น " สามเหลี่ยม" สำคัญที่ส่งผลต่ออารมณ์ของเรา
มุมมองจากแพทย์แผนจีน:
ปอด คือ ที่สะสมของความเศร้า
ลำไส้ คือ ทางออกของความรู้สึก
ศาสตร์แพทย์จีนเชื่อว่า:
* ปอด (肺) เป็นอวัยวะที่เก็บพลังแห่งความเศร้าโศก (魄) ถ้าปอดหดตัวเพราะความเศร้า พลังชีวิตก็จะหดหายตามไปด้วย
* ปอดและลำไส้ใหญ่ (大肠) สัมพันธ์กันโดยตรง (肺与大肠相表里) นี่หมายความว่า เมื่อปอดอ่อนแอจากความเศร้า ลำไส้ใหญ่ก็อาจเคลื่อนไหวไม่ดี ส่งผลต่อการขับถ่าย ทั้งของเสียในร่างกาย และ "ของเสียในใจ" ที่ไม่ได้ระบาย
ดังนั้น ถ้าคุณขับถ่ายไม่ปกติ อาจไม่ใช่แค่ปัญหาท้องไส้ แต่เป็นสัญญาณของความรู้สึกที่ยังไม่ได้ปลดปล่อย (ในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ ดูดน้ำอุจจาระที่ค้างอยู่ไปสะสมในตัว รบกวนระบบต่างๆ และสมองด้วย) วิทยาศาสตร์ยุคใหม่ยืนยันการเชื่อมโยงนี้ได้อย่างไร?
งานวิจัยทางการแพทย์สมัยใหม่ได้ค้นพบกลไกที่น่าทึ่ง ซึ่งสนับสนุนแนวคิดของแพทย์แผนจีน:
* ปอดคือแหล่งผลิตเกล็ดเลือดหลักของร่างกาย:
* งานวิจัยในวารสาร Nature (Lefrançais et al., 2017) พบว่ากว่า 50% ของเกล็ดเลือดทั้งหมดในร่างกายถูกผลิตที่ปอด ไม่ใช่แค่ไขกระดูกอย่างที่เคยเชื่อกัน!
* เกล็ดเลือดเหล่านี้ยังบรรจุ "เซลล์ต้นกำเนิดของเม็ดเลือด" ซึ่งชี้ให้เห็นบทบาทสำคัญของระบบทางเดินหายใจต่อระบบเลือดและภูมิคุ้มกัน
* ลำไส้คือแหล่งผลิตเซโรโทนินหลักของร่างกาย:
* เซโรโทนิน (Serotonin) หรือสารแห่งความสุข ที่หลายคนเข้าใจว่าสร้างที่สมองเป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วกว่า 90% ของเซโรโทนินในร่างกายถูกสร้างโดยเซลล์ในผนังลำไส้เล็ก (Sapienza Università di Roma, 2024)
ซึ่งจะถูก "จับเก็บ" โดยเกล็ดเลือดที่ไหลเวียนผ่านลำไส้ และส่งเข้าสู่กระแสเลือด กลไกเชื่อมโยง ปอด-ลำไส้-สมอง: วงจรแห่งอารมณ์
แม้เซโรโทนินในเลือดจะข้ามผ่าน "กำแพงเลือดสมอง (BBB)" ได้ไม่ดีนัก แต่เกล็ดเลือดอาจมีบทบาทในการส่งสัญญาณทางชีวเคมีผ่านเส้นประสาทเวกัส หรือกระตุ้นเซลล์ในสมองให้ผลิตเซโรโทนินเพิ่มขึ้นได้
สรุปกลไกแบบง่ายๆ :
* ลำไส้ผลิตเซโรโทนิน
* เกล็ดเลือดจากปอด เก็บเซโรโทนิน
* เกล็ดเลือดพาเซโรโทนินเดินทางไปทั่วร่างกาย รวมถึงส่งสัญญาณทางอ้อมถึงสมอง เพื่อปรับสมดุลอารมณ์
ดังนั้น หากปอดอ่อนแอ เพราะความเศร้าเรื้อรัง อาจทำให้ผลิตเกล็ดเลือดได้น้อยลง ส่งผลให้การขนส่งเซโรโทนินไปกระตุ้นสมองลดลง ทำให้สมองซึมและอารมณ์เศร้าเรื้อรัง เกิดเป็น "วงจรเศร้า" ที่กระทบทั้งใจ สมอง และลำไส้
ในทางแพทย์จีน ภาวะนี้เรียกว่า "ปอดพร่อง ลำไส้หยุดเคลื่อนไหว" (肺气虚合大肠失宣) ซึ่งแสดงออกได้ด้วยอาการแน่นหน้าอก อ่อนเพลีย ขับถ่ายไม่ดี และใจหม่นหมองโดยไม่ทราบสาเหตุ ปรับพฤติกรรมดูแลปอด-ลำไส้-สมอง เพื่ออารมณ์ที่ดีขึ้น
เมื่อเราเข้าใจความเชื่อมโยงนี้แล้ว เรามาดูกันว่าเราจะดูแลตัวเองให้ห่างไกลจาก "วงจรเศร้า" ได้อย่างไรบ้าง: 1. หายใจให้ลึกและผ่อนคลาย (ดูแลปอด):
* ฝึกหายใจลึกๆ: ใช้กระบังลมช่วยในการหายใจ (Deep Breathing) หายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ ช่วยให้ปอดขยายตัวเต็มที่ และยังเป็นการฝึกจิตใจให้สงบลงด้วย
* ออกกำลังกายเบาๆ ในที่อากาศบริสุทธิ์: เช่น โยคะ ชี่กง หรือเดินในสวนสาธารณะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด
* หลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ: ฝุ่นควัน และมลภาวะต่างๆ ส่งผลเสียต่อปอดโดยตรง 2. ดูแลลำไส้ให้สมดุล (Gut Health):
* รับประทานอาหารที่มีไฟเบอร์สูง: ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยให้ลำไส้เคลื่อนไหวได้ดี และเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้
* เพิ่มโพรไบโอติกและพรีไบโอติก:
* โพรไบโอติก: พบในอาหารหมักดอง เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว คีเฟอร์ กิมจิ คอมบูชา ซึ่งมีจุลินทรีย์ดีช่วยปรับสมดุลลำไส้
* พรีไบโอติก: เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้ พบในหอมหัวใหญ่ กระเทียม กล้วย หน่อไม้ฝรั่ง อาร์ติโช้ก
* ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ: ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี 3. บำรุงสมองและอารมณ์ (ผ่านสารอาหาร):
* กรดอะมิโนทริปโตเฟน: เป็นสารตั้งต้นในการสร้างเซโรโทนิน พบในอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไก่ งา เมล็ดฟักทอง ถั่วเหลือง ชีส นม ไข่ กล้วย
* วิตามิน B6, B9 (โฟเลต) และ B12: วิตามินเหล่านี้จำเป็นต่อการสร้างเซโรโทนินและสารสื่อประสาทอื่นๆ พบในธัญพืชไม่ขัดสี ผักใบเขียวเข้ม ถั่ว เนื้อสัตว์ และไข่
* โอเมก้า 3: มีส่วนช่วยในการทำงานของสมองและลดการอักเสบ พบในปลาทะเลน้ำลึก (แซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน) เมล็ดแฟลกซ์ และวอลนัท
* วิตามิน D: เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมองและอารมณ์ รับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า หรือรับประทานอาหารที่มีวิตามิน D เช่น ปลาที่มีไขมันสูง นมเสริมวิตามิน D 4. ปล่อยวางและระบายความรู้สึก:
* พูดคุยกับคนที่คุณไว้ใจ: การได้ระบายความรู้สึกออกมา ไม่ว่าจะกับเพื่อน ครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยไม่ให้ความเศร้าสะสม
* เขียนบันทึก (Journaling): เป็นวิธีที่ดีในการจัดระเบียบความคิดและความรู้สึก
* หากิจกรรมที่สร้างความสุข: ไม่ว่าจะเป็นงานอดิเรก ดูหนัง ฟังเพลง หรือทำสมาธิ ช่วยลดความเครียดและเติมพลังบวก หายใจให้ลึก ปล่อยวางให้เป็น เริ่มใหม่อย่างเบาสบาย
อย่าเก็บความเศร้าไว้จนปอดหด ตัว ลำไส้หยุดนิ่ง การดูแลสุขภาพปอดและลำไส้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องกายภาพ แต่เป็นการดูแลสุขภาพใจของเราด้วย
ลองหายใจให้เต็มปอด กล้าพูดในสิ่งที่เคยเก็บไว้ และระบายความรู้สึกออกมา เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ปลดปล่อย และกลับมาเบาสบายอีกครั้ง สอบถามวิธีการดูแลสุขภาพแนว อ.มาศ
Line : @R9999
กด https://line.me/R/ti/p/%40aip7401c
#ซึมเศร้า #แพทย์จีน #สุขภาพปอด #สุขภาพลำไส้ #เซโรโทนิน #สุขภาพจิต #อาหารดีต่อใจ